ความหมายและความสำคัญของเทคโนโลยี
เทคโนโลยี หมายถึง
การนำความรู้ทางธรรมชาติวิทยาและต่อเนื่องมาถึงวิทยาศาสตร์
มาเป็นวิธีการปฏิบัติและประยุกต์ใช้เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ
อันก่อให้เกิดวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร
แม้กระทั่งองค์ความรู้นามธรรมเช่น ระบบหรือกระบวนการต่าง ๆ เพื่อให้การดำรงชีวิตของมนุษย์ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
ความสำคัญของเทคโนโลยี
- · เป็นพื้นฐานปัจจัยจำเป็นในการดำเนินชีวิตของมนุษย์
- · เป็นปัจจัยหลักที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนา
- · สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี
- · เกิดการสื่อสารไร้พรมแดน
- · การทำงานรวดเร็วคล่องตัว
- · ป้องกันความเสียหายของชีวิตและทรัพย์สิน
- · เป็นเรื่องราวของมนุษย์ และธรรมชาติ
วิวัฒนาการของเทคโนโลยี
วิวัฒนาเทคโนโลยี เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาเมื่อเวลาผ่านไป
ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับกระบวนการทางวิวัฒนาการ ของระบบหรือเครื่องมือนั้นๆ
ดังคำว่า วิวัฒนาการของเทคโนโลยี จึงหมายถึง ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระบบหรือเครื่องมือที่เกิดขึ้นอย่างซับซ้อน
และมีการเปลี่ยนแปลงตามลำดับอย่างต่อเนื่องอันมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆ
วิวัฒนาการสามารถแบ่งได้เป็น
5 ยุค
- · ยุคหิน
- · ยุคทองสัมฤทธิ์
- · ยุคเหล็ก
- · ยุคการปฏิวัติ อุตสาหกรรม
- · ยุคศตวรรษที่ 20
ผลของเทคโนโลยีด้านลบและด้านบวก
ผลกระทบด้านบวก
- · การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- · เสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส
- · สารสนเทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน
- · การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม
ผลกระทบด้านลบ
- · ก่อให้เกิดความเครียดในสังคมมากขึ้น
- · ก่อให้เกิดการรับวัฒนธรรม
- · การมีส่วนร่วมของคนในสังคมลดน้อยลง
- · อาชญากรรมบนเครือข่าย
ประโยชน์ของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน
- · ช่วยให้ติดต่อสื่อสารระหว่างกันอย่างสะดวกรวดเร็ว โดยใช้โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์หรือในรูปของ สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ
- · ช่วยให้เก็บสารนิเทศไว้ในรูปที่สามารถเรียกใช้ได้ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างสะดวก
- · ช่วยในการจัดระบบข่าวสารจำนวนมหาศาล ซึ่งผลิตออกมาในแต่ละวัน
- · ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสารนิเทศ
- · ช่วยให้สามารถจัดระบบอัตโนมัติเพื่อการเก็บ เรียกใช้ และประมวลผล
- · อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสารนิเทศดีกว่าสมัยก่อน
ตัวอย่างเทคโนโลยี
ก้าวเข้าสู่เดือนมกราคม ปี 2018 ประเดิมศักราชใหม่ด้วยงาน CES 2018 (Consumer Electronics Show) ที่จัดขึ้น ณ ลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 9 – 12 มกราคม 2018 งานใหญ่ที่รวบรวมเทคโนโลยีอันทันสมัย พร้อมเป็นตัวชี้นำให้เห็นถึงแนวโน้มของเทคโนโลยีที่คาดว่าจะขึ้นตลอดทั้งปีนี้
1.ชาร์จไร้สายแบบ Over-the-air ⛅

สมาร์ทโฟนในปัจจุบันหลายรุ่นรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless Charging) บ้างแล้ว
แต่ข้อจำกัดของเทคโนโลยีในลักษณะนี้ยังต้องพึ่งพาแท่นชาร์จ
แต่ความฝันของเทคโนโลยีนี้ต้องสามารถชาร์จแบบไร้สายได้อย่างแท้จริง
หรืออีกนัยหนึ่งคือ “การส่งพลังงานเพื่อชาร์จผ่านทางอากาศ” (Over-the-air)
2.ทีวีแบบ Micro-LED 📺

ปกติเรามักได้ยินแต่ทีวีแบบ LED
แต่สำหรับงาน CES 2018 มีการคาดการณ์ว่า Samsung
เตรียมเปิดตัวทีวีแบบใหม่ที่เรียกว่า Micro-LED ที่ใช้หลอดไฟ LED ขนาดเล็กกว่า 100
micrometers ให้ประโยชน์ต่อการผลิตแสงในตัวเอง
พร้อมอัตราความคมชัดสูงและให้สีดำที่ดำสนิท
นอกจากนี้ยังเป็นทีวีที่มีอัตราการใช้พลังงานต่ำอีกด้วย
3.Smart home 🎤

เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา
อุปกรณ์ประเภทลำโพงอัจฉริยะสั่งงานด้วยเสียงได้
กลายเป็นเทรนด์ที่บริษัทด้านเทคโนโลยีให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดย Alexa จาก Amazon ถือเป็นอุปกรณ์ภายในบ้านที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ
ซึ่งหลังจากนั้นก็มีอีกหลายบริษัทก็ได้คิดค้นและพัฒนาอุปกรณ์ในลักษณะดังกล่าวออกมาชิงชัยกันอย่างคึกคัก
4.หุ่นยนต์ 🤖

อย่าหวาดวิตกว่าปีนี้เราจะมีหุ่นยนต์ประเภทเดียวกับในหนังอย่าง iRobot หรือ Terminator แต่หุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะถูกนำมาโชว์ในงาน CES 2018 จะเน้นไปในเชิงการเป็นผู้ช่วยให้กับผู้คน หรือเป็นผู้ช่วยในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งสิ่งที่จะพัฒนามากขึ้น คือ Artificial Intelligence หรือ A.I. เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนหุ่นยนต์ให้มีความสามารถในการโต้ตอบกับผู้คนได้มากขึ้น เข้าใจในภาษาพูด สามารถวิเคราะห์และให้คำแนะนำ หรือช่วยตัดสินใจให้กับผู้คนได้มากขึ้น
5.สมาร์ทโฟน 📱

แม้ตัวเลขการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนจะไม่พุ่งสูงมาก แต่การแข่งขันของผู้ผลิตจำนวนมากยังเป็นไปอย่างเข้มข้น งานออกแบบค่อนข้างเป็นไปในทิศทางที่ใกล้เคียงกัน รวมไปถึงสเปคและประสิทธิภาพที่ให้ความคุ้มค่าเกินราคา ซึ่งในงาน CES 2018 คาดว่าจะมีผู้ผลิตบางรายใช้โอกาสนี้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ซึ่งงานออกแบบอย่างตัวเครื่องที่ทำขึ้นจากกระจก, สัดส่วนหน้าจอ 18:9, กล้องคู่, ตัด headphone jack ทิ้ง และกันน้ำได้ จะมีมากับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ตั้งแต่ต้นปี
6.Smart Car 🚍

ตลอดปี 2017 ที่ผ่านมา
ทิศทางของตลาดรถยนต์เริ่มพุ่งเป้าไปที่การพัฒนารถยนต์ส่วนบุคคลที่สามารถขับเคลื่อนเองได้อัตโนมัติ
พร้อมระบบอัจฉริยะที่สามารถควบคุมและให้ความปลอดภัยกับคนนั่งได้
แถมช่วงปลายปีก็เริ่มมีค่ายรถยนต์บางรายเริ่มพัฒนารถโดยสารขนส่งสาธารณะแบบขับเคลื่อนเองอัตโนมัติบ้างแล้วเช่นกัน
รวมไปถึงการพัฒนารถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า, ไนโตรเจน
หรือพลังงานอื่นๆ ทดแทนการใช้น้ำมัน
แหล่งอ้างอิง : https://www.aripfan.com/ces-2018-trend-technology/
https://www.youtube.com/watch?v=YtD_koTaIa0
https://sites.google.com/site/saradeemakmak/khwam-ru-dan-thekhnoloyi/prayochn-khxng-thekhnoloyi-ni-chiwit-praca-wan
http://neung.kaengkhoi.ac.th/information1/techno_3_2.htmlhttps://www.youtube.com/watch?v=YtD_koTaIa0
https://sites.google.com/site/saradeemakmak/khwam-ru-dan-thekhnoloyi/prayochn-khxng-thekhnoloyi-ni-chiwit-praca-wan
สืบค้นเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561
⭐⭐⭐⭐⭐
No comments:
Post a Comment