เทคโนโลยี Augmented
Reality (AR)

AR เป็นเทคโนโลยีใหม่
ที่ผสานเอาโลกแห่งความเป็นจริง (Real) เข้ากับโลกเสมือน (Virtual)
โดยผ่านอุปกรณ์ทางด้านฮาร์ดแวร์รวมกับการใช้ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ
ทำให้สามารถมองเห็นภาพที่มีลักษณะเป็นวัตถุ (Object) แสดงผลในจอภาพกลายเป็นวัตถุ
3 มิติ ลอยอยู่เหนือพื้นผิวจริง มีการแสดงผลที่แสดงวัตถุมีการเคลื่อนไหว
ดูมีมิติมีความตื่นเต้นเร้าใจ
โดยสามารถนำรูปแบบใหม่ของการนำเสนอสินค้าลอยออกมานอกจอคอมพิวเตอร์
ซึ่งเป็นการนำเสนอรูปแบบใหม่ในโลกสังคมออนไลน์หรือการตลาดออนไลน์อีกทางหนึ่ง
ว่ากันว่า นี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าสื่อยุคใหม่ พอๆ กับเมื่อครั้งเกิดอินเทอร์เน็ตขึ้นในโลกก็ว่าได้
หากเปรียบสื่อต่าง ๆ เสมือน “กล่อง” แล้ว AR คือการเด้งออกมาสู่โลกใหม่ภายนอกกล่องที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ
ในรูปแบบ Interactive Media โดยแท้จริง
เทคโนโลยีเสมือนจริงนี้
มีหลักการทำงานโดยสามารถแบ่งประเภทตามส่วนวิเคราะห์ภาพ (Image Analysis) เป็น
2 ประเภท ได้แก่ การวิเคราะห์ภาพโดยอาศัย Marker เป็นหลักในการทํางาน (Marker based AR) และการวิเคราะห์ภาพโดยใช้ลักษณะต่าง
ๆ ที่อยู่ในภาพมาวิเคราะห์ (Marker-less based AR) หลักการของเทคโนโลยีเสมือนจริง
ประกอบด้วย
- กล้องวิดีโอ เว็บแคม กล้องโทรศัพท์มือถือ หรือ
ตัวจับ Sensor อื่นๆ
- ส่วนการแสดงผลภาพ เช่นจอภาพจากอุปกรณ์แสดงผล
- ซอฟต์แวร์ส่วนประมวลผลเพื่อวัตถุแบบสามมิติ object 3D
- Marker (หรือที่เรียกว่า Markup)
********************************
หน้าจอแสดงผลที่สามารถบิดงอได้

ภาพฝันของการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เราทุกคนต่างก็อยากจะเห็นมันในโลกแห่งความจริง
นั่นก็คือความสามารถในการแสดงผลแบบโฮโลแกรมสามมิติที่ลอยออกมาจากหน้าจอโดยที่ไม่จำเป็นต้องสวมใส่อุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อใช้งาน
ซึ่งผลงานของ 2 นักวิจัยจากแคนาดา อาจช่วยตอบสนองความคาดหวังนี้ได้จริงๆ
แล้ว
HoloFlex
คือชื่อของสมาร์ทโฟนเครื่องต้นแบบ ที่ทีมนักวิจัย Human
Media Lab จากมหาวิทยาลัยควีนส์ ประเทศแคนาดาได้พัฒนาขึ้นมา
โดยตัวอุปกรณ์นั้นจะไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไป
เพียงแต่มีหน้าจอที่โค้งงอในระดับหนึ่ง ซึ่งทางทีมงานได้เลือกใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า
FOLED (Flexible Organic Light Emitting Diode) ที่ถูกปรับแต่งให้มีชิ้นส่วนเลนส์ขนาดเล็กแทรกอยู่ภายในหน้าจอ
โดยชิ้นเลนส์เหล่านี้จะสามารถแสดงสภาพแสงที่แตกต่างกันได้ในหลากหลายทิศทาง
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ การแสดงผลมิติความลึกของชั้นวัตถุที่ปรากฏบนหน้าจอโค้งงอออกมา
ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นภาพสามมิติลอยออกมาโดยที่ไม่จำเป็นต้องสวมแว่นตา 3D
หรือใช้เทคโนโลยี Head Tracking แต่อย่างไร
นอกจากนั้นยังได้มีการติดตั้ง Bend Sensor ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของวัตถุตามแนวแกน
Z เพียงบิดตัวเครื่องให้โค้งงอได้อีกด้วย
********************************
ภาพฮอโลกราฟี (Holograms)

ฮอโลแกรม เป็นภาพที่มีลักษณะ 3 มิติ
ซึ่งแตกต่างจากภาพ 2 มิติ
ภาพฮอโลแกรมจะใช้หลักการสร้างภาพให้มีการแทรกสอดของแสงที่มากระทบรูปภาพ
โดยการฉายแสงเลเซอร์จากแหล่งเดียวกัน แยกเป็น 2 ลำแสง ลำแสงหนึ่งเป็นลำแสงอ้างอิงเล็งตรงไปที่แผ่นฟิล์ม
อีกลำแสงหนึ่งเล็งไปที่วัตถุและสะท้อนไปยังฟิล์ม
แสงจากทั้งสองแหล่งจะถูกบันทึกไว้บนฟิล์มในรูปแบบของการแทรกสอด (Interference
Pattern) ซึ่งมองไม่คล้ายกับรูปของวัตถุต้นแบบ ก่อให้เกิดภาพเสมือน
(Virtual image) ขึ้นมาตามมุมของแสงที่มาตกกระทบ
ทำให้ตาของเรารับแสงอีกด้านหนึ่งของแผ่น Hologram เกิดเห็นภาพ
3 มิติขึ้น
ฮอโลแกรมถูกสร้างขึ้นด้วยกระบวนการที่เรียกว่า
ฮอโลกราฟี (Holography) โดยฮอโลกราฟีเป็นเทคนิคที่ช่วยให้แสงกระจายจากวัตถุที่จะบันทึกและได้ถูกสร้างขึ้นใหม่
เพื่อให้ปรากฏเป็นวัตถุอยู่ในตำแหน่งเดิมเมื่อเทียบกับการบันทึก
การเปลี่ยนแปลงรูปแบบตำแหน่งและทิศทางของระบบการมองเห็นเป็นไปอย่างถูกต้องเหมือนกับว่าวัตถุก็ยังคงเป็นปัจจุบันจึงทำให้ภาพที่บันทึกปรากฏเป็นสามมิติ
ฮอโลแกรม 3 มิติ เป็นเทคโนโลยีรูปแบบหนึ่งที่ใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารระยะไกลระหว่างบุคคลต้นทางและปลายทางที่อยู่ต่างสถานที่กัน
สามารถโต้ตอบแบบตัวต่อตัว
********************************
เทคโนโลยี dolby
vision
Dolby Vision ก็คือเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อคุณภาพที่ดีที่สุดสำหรับการดูหนังในปัจจุบันนี้
ช่วยให้ภาพสดใส ดูมีชีวิตชีวา ทำให้เราดูหนังอย่างมีอรรถรสมากขึ้น เพราะ Dolby
Vision สามารถแสดงเฉดสีให้สมจริงแบบคนถ่ายเห็นอย่างไร
เราก็จะเห็นอย่างนั้นและยังแสดงผลของภาพทั้งความเข้ม ลึก
และสว่างมากกว่าปกติแก้ปัญหาการผิดเพี้ยนของภาพ
ถ่ายทอดภาพให้เราได้เห็นตามต้นฉบับที่ผู้ถ่ายทำต้องการนำเสนอ
Dolby
Vision ทำงานโดยให้ทีวีของคุณสตรีมข้อมูลอ้างอิงมาเก็บไว้เพื่อเตรียมพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา
ทำให้ทีวีสามารถแสดงผลในแต่ละฉากออกมาได้ดีที่สุด
ในบางครั้งการควบคุมดังกล่าวจะปรับปรุงคุณภาพกันอย่างละเอียดลงไปจนถึงระดับเฟรมเป็นผลให้
Dolby Vision ให้ภาพที่ดีกว่า HDR10 ไม่ว่าจะเป็นในฉากกลางวัน
ฉากกลางคืน และฉากอื่น ๆ
ปัจจุบันผู้ผลิตหนังระดับ
Major
จาก Hollywood และวีดีโอสตรีมมิ่งเจ้าดังอย่าง
Netflix เองก็หันมาเลือกใช้การถ่ายทำด้วยเทคโนโลยี Dolby
Vision กันมากขึ้นทำให้เรามีตัวเลือกหนังให้รับชมมากมาย หากคุณมักรับชมหนังเรื่องโปรดผ่านสมาร์ทโฟน
ไม่ว่าจะเป็นระหว่างเดินทาง ท่องเที่ยว หรือยามพักผ่อน การมีสมาร์ทโฟนที่รองรับ Dolby
Vision ก็จะช่วยให้ช่วงเวลาความบันเทิงของคุณเพลิดเพลินได้อารมณ์มากยิ่งขึ้น
ล่าสุดเทคโนโลยี Dolby Vision ก็ได้ถูกนำเข้ามาสู่สมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรกใน LG G6 สมาร์ทโฟนพรีเมียม ที่มาพร้อมหน้าจอ 5.7
นิ้ว ซึ่งแอลจี
ประเทศไทยเพิ่งเปิดตัวคืนสังเวียนตลาดสมาร์ทโฟนพรีเมียมในไทยไปเมื่อเร็วๆ นี้
และยังเป็นสมาร์ทโฟนพรีเมียมแบรนด์เดียวในขณะนี้ที่นำเสนอเทคโนโลยี Dolby
Vision และ HDR 10 โดยสามารถใช้งานโหมด Dolby
Vision ได้ถึง 4 โหมดคือ โหมด Bright นำเสนอวีดีโอคุณภาพดีที่สุดในสภาพแวดล้อมที่สว่างขึ้น, โหมด Vivid เพิ่มความสว่างและสีเพื่อภาพที่คมชัดขึ้น,
โหมด Cinematic ให้ภาพที่ใกล้เคียงโรงภาพยนตร์มากที่สุดและโหมด
Standard รักษาสมดุลระหว่างการประหยัดพลังงานและคุณภาพวีดีโอ

แหล่งที่มา :
https://www.gm2000magazine.com/dolby- vision-vs-hdr10/
https://news.siamphone.com/news-33306.html
https://kedwachi.wordpress.com/2013/08/08/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%AE%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1-hologram-technology/
😋😋😋😋😋😋
No comments:
Post a Comment